เข้าเรื่องเลยละกันนะคะ เรามีเพื่อนสนิทคนหนึ่ง ชื่อว่าสาละกัน เรากับสาเป็นเด็กต่างจังหวัดที่เข้ามาเรียนในกรุงเทพเหมือนกัน เราสองคนเรียนอยู่ปี3 มหาลัยรัฐแห่งหนึ่งในกรุงเทพ และเราพักอยู่ห้องเดียวกัน
จุดเริ่มต้นของเรื่องคือเนื่องจากปีนี้ทาง กยศ. เปลี่ยนระบบใหม่ในการการโอนเงินค่าครองชีพให้คนที่กู้ ต่างจากแต่ก่อนที่เมื่อเซ็นสัญญากู้(ช่วงเปิดเทอม)เสร็จจะได้รับเงินค่าครอง ชีพหลังจากนั้น3 วัน แต่!เทอมนี้ ด้วยระบบใหม่ที่ไม่รู้ว่าทำมาเพื่ออะไรมิทราบ นี่เซ็นสัญญากู้มาได้ 4 เดือนกว่าแล้วยังไม่มีวี่แววว่าจะได้เงินเลย!
จะบอกว่าทั้งเราและสา ลำบากมากค่ะจากระบบนี้ เพราะอย่างน้อยแต่ก่อนในแต่ละเดือนก็จะมีค่าครองชีพให้เดือนละ 2200 บาท เราก็จะเก็บมันไว้เป็นค่าห้อง(ค่าห้องรวมค่าน้ำค่าไฟประมาณ 4000 กว่าบาท) และด้วยที่เราทั้งคู่ทำงานพาท์ไทมเสาร์-อาทิตย์ (วันละ300บาท)เราเลยพอมีเงินกินและมีเงินไปเรียนบ้าง แต่ด้วยระบบใหม่นี้ ทำให้เราไม่มีเงินที่จะจ่ายค่าห้องค่ะ ซึ่งค่าห้องจะตกคนละประมาณ สองพันกว่าบาท จะบอกว่าเราลำบากกันมากๆ เพราะแค่เงินจากการทำงานอาทิตย์ละ 600 บาทก็พอแค่ค่าอาหารกับค่ารายงานต่างๆ ส่วนค่าห้องในแต่ละเดือนเราก็จะช่วยกันหาจนสุดความสามารถ ประมาณว่ามีเพื่อนกี่คนโทรไปยืมหมด ทางบ้านก็ไม่มีจะให้เพราะเราทั้งสองคนมาจากครอบครัวยากจนค่ะ บางทีก็ให้แม่ไปยืมคนอื่นให้ก่อน ซึ่งเราทำอย่างนี้มาได้สองเดือนแล้วหลังจากที่เซ็นสัญญาเรื่องกู้ไป
เรา ติดตามเรื่องกยศ. ตลอด ทางมหาลัยก็บอกรอไปก่อนเพราะส่งเอกสารไปให้ทางธนาคารแล้ว พอโทรไปเช็คที่ธนาคาร ธนาคารก็บอกกำลังอยู่ระหว่างตรวจสอบเอกสาร!! คือเราโทรตามเรื่องทุกอาทิตย์เลยก็ว่าได้ เพราะลำบากมากจริงๆ จนปลายตุลาคมที่ผ่านมาเราไม่มีตังจ่ายค่าห้องจริงๆ ยืมใครก็ไม่ได้เพราะคนที่จะให้ยืมก็ยืมไปแล้วและยังไม่มีคืนเลย จะบอกว่าช่วงนั้นเครียดมากค่ะแทบไม่อยากไปเรียนเลย เพราะเจ้าของหอก็ทวงค่าห้องทุกวัน และปรับวันละ50บาท เราและสาพยายาทำทุกวิถีทางเพื่อให้มีเงินจ่ายค่าห้องพัก เราเลยโทรไปขอให้แม่ช่วยยืมคนแถวบ้านให้หน่อยทั้งที่สงสารแม่มากแต่ถ้าไม่ จ่ายโดนไล่ออกจากหอแน่ๆ เราเลยได้เงินมา 2000บาท ส่วนสาบอกว่าเดี๋ยวจะไปขอยืมรุ่นพี่คนหนึ่ง หลังจากนั้นผ่านไปสองวันสาก็เอาเงินมาให้เรา2000 บาท เราก็ถามว่ายืมใครมา สาก็บอกว่ายืมรุ่นพี่ที่รู้จัก เราก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ
แต่หลังจาก นั้นมาสาก็ทำตัวผิดปกติค่ะ คือเงียบๆเหมือนคนโศกเศร้าตลอดจากที่เป็นคนร่าเริง เราถาม สาก็บอกไม่มีอะไร จนเมื่อสองวันก่อน สาบอกเราว่าไม่อยากเรียนแล้ว เราก็ถามทำไมวะ? เรียนมาจนจะจบแล้วอยู่ๆทำไมถึงมาท้อตอนนี้ สาบอกว่ามันเหนื่อยใจ และสามันก็เริ่มร้องไห้ออกมา เราก็งงว่าว่า สาเป็นอะไรกันแน่ จนสุดท้ายสาจึงยอมบอก ว่าค่าห้องที่สาเอามาให้สองพันนั่น ได้จากการไปขายตัวมา เราอื้งมาก!!พูดอะไรไม่ออก
ไม่เคยคิดเลยว่าสา จะกล้าอะไรทำแบบนั้น แต่เราก็พยายามปลอบใจ และถามว่าเรื่องเป็นไงกันแน่ สาเลยบอกว่าสาหาค่าห้องให้เราไม่ได้จริงๆ โทรไปขอที่บ้านก็โดนด่าและโดนบังคับให้ออกไม่ต้องเรียนแล้ว สาเลยไปปรึกษารุ่นพี่ที่รู้จักคนหนึ่ง เค้าเลยแนะนำให้สาไปทำแบบนั้น เพราะเค้าบอกว่านั่นคือวิธีเดียวที่จะหาเงินได้ทันจ่ายค่าห้อง สาเล่าว่าพี่คนนั้นติดต่อลูกค้าให้และนัดสาไปหาลูกค้าและก็มีอะไรกัน สาบอกว่าความรู้สึกไม่ต่างจากโดนข่มขืนเลย สาทั้งร้องไห้ลูกค้าก็ไม่หยุด พอสาเล่ามาถึงตรงนี้เราร้องไห้ยิ่งกว่าสาอีก เราเสียใจมากที่สาต้องไปเจอกันอะไรแบบนั้น และคิดในใจว่าทำไมเราถึงมาจุดๆนี้ได้ยังไง....
ซึ่งตอนนี้สาก็ได้ลา ออกจากมหาลัยและกลับบ้านที่ต่างจังหวัดแล้วค่ะ เราไม่ห้ามสาอะไรทั้งนั้นเพราะเรารู้เลยว่าสาทุกข์ใจและทรมารใจขนาดไหน และเรื่องราวทั้งหมดเราแค่ต้องการที่จะบอกว่าการที่กยศ.เปลี่ยนระบบแบบนี้ มันทำให้เราและอีกหลายๆคนลำบากมากจริงค่ะ เพราะที่กู้ก็เพราะต้องการมีเงินมาใช้ระหว่างเรียนหนังสือค่ะ ไม่ใช่จะปิดเทอมแล้ว เงินกู้ยังไม่ได้เลย และได้ข่าวมาอีกว่าเงินจะออกช่วงมกราคมปีหน้าอีก ซึ่งตรงกับช่วงปิดเทอมพอดี เราเลยไม่แน่ใจว่า กองทุนกยศ.มีนโยบายช่วยเงินนศ.ระหว่างเรียน หรือช่วยออกค่าเที่ยวช่วงปิดเทอมกันแน่! และเราก็ไม่ต้องการให้เรื่องแบบนี้ไปเกิดกับใครอีก ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลที่เล่ามาเราแค่อยากให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องออกมาดูแล และมองเห็นถึงปัญหาและความลำบากของนศ.จนๆที่ได้รับจากการเปลี่ยนแปลงระบบ ใหม่ในครั้งนี้ค่ะ
ลำหรับเราตอนนี้ก็ลำบากมากค่ะ เป็นหนี้เพื่อนๆ รวมๆก็ห้าพันกว่าบาทแล้ว ส่วนแม่ก็เป็นหนี้นอกระบบอีก สี่พันกว่าบาท เราเครียดมากแทบไม่อยากไปเรียนด้วยซ้ำ นอนก็ไม่หลับทั้งคืนเพราะคิดแต่ว่าถ้าปลายเดือนนี้ค่าครองชีพยังไม่ออกอีกจะ เอาเงินที่ไหนมาจ่ายค่าห้อง อยากให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทุกท่านเห็นใจนศ.จนๆอย่างหนูด้วยค่ะและเชื่อว่าคงมี อีกหลายคนที่เจอสถานการณ์เช่นนี้อยู่เหมือนกัน สุดท้ายก็ขอบคุณทุกๆคนที่อ่านจนจบนะคะ
ซึ่งความเห็นที่น่าสนใจคือ
ความคิดเห็นที่ 2-1 ของสมาชิก2816515
เงินกู้ยืมเรียนรัฐบาล...
เริ่มยึดทรัพย์ และติดแบล็คลีส คนที่ไม่ชำระแล้ว
พูดอย่างเป็นกลาง
- เขาไม่อยากหนีหนี้ เขาไม่มีจะให้
- เรียนจบมา กว่าจะหางานทำได้
- เงินเดือนไม่พอยาไส้ 8-9 พัน ค่าเช่าห้อง ค่ากิน ค่ารถ แทบจะไม่พอแต่ละเดือน
- ชีวิตต้องวนเวียนแบบนี้ หากินยาไส้ไปถึงแก่ยังจะได้สบายหรือเปล่า
อย่าถามเลยว่า ไม่มีจ่ายแล้วกู้ทำไม
เขากู้มาเพื่อหวังว่าจะมีชีวิตที่ดีเมื่อมีการศึกษาที่ดี แต่มันไม่ใช่อย่างนั้น
แต่ละปีคนจบมาเป็นหมื่นเป็นแสน มีเส้นมีสายก็สบายไป คนที่ดิ้นเองไม่มีตัวช่วยก็น่าเห็นใจ
สรุปคนมีเงิน ไม่เข้าใจหรือมองเห็นในจุดนี้ ปัญหาชีวิตแค่ดิ้นหากินแต่ละวันเลือดตาแทบกระเด็น
ออกกฏหมายไล่ยึดทรัพย์ แถมให้ติดแบล็คลีสชีวิตนี้ไม่ต้องทำอะไรได้ต่อไป ไม่เอาชีวิตเขาไปเลยครับจะง่ายกว่า....
น่าสงสาร -ผลาญภาษี มากกว่านี้ ให้เรียนฟรีกันไปเลยยังได้ อย่ามาอ้างว่าสงสารรุ่นน้องจะไม่มีเงินเรียนเลย...
จบมาต่อให้ได้งาน (ประจำ) เงินเดือนขั้นต่ำ 9,000 บาท
- กินข้าวมื้อละ 30 บาท เฉลี่ยให้วันละ 100 เดือนนึง 3,000 บาท
- ค่ารถค่าเดินทาง ใกล้ ไกล 50-100 บาท เฉลี่ย 1,500 - 3,000 บาท
- ค่าเช่าที่อยู่อาศัย รวมน้ำไฟอย่างต่ำๆเลย 3,000 บาท
แค่นี้ก็แทบแย่แล้ว คนที่ได้เงินเดือน 8,000 ก็มีส่วนมากด้วย
เพราะแค่ผ่อนสินค้าหรือเงินกู้เขาก็คำนวนแบบนี้ก่อนปล่อยกู้ว่าจะมีกำลังที่จะส่งเขาได้ไหม ถ้าไม่เหลือกินเขาก็ไม่ปล่อยให้กู้
มัน เป็นการปล่อยให้กู้ โดยไม่คิดแผนตอนจบ เพราะผลที่ออกมาส่วนใหญ่ จะเป็นแบบนี้ รัฐต้องแบกความเสี่ยงส่วนนี้ไว้เอง จะมาลงกับผู้กู้ไม่ได้
นอกจากรัฐสามารถการันตี รายได้เมื่อเรียนจบ คำนวนความเป็นอยู่ค่าใช้จ่ายทุกอย่าง แล้วสามารถมีกำลังส่งคืนได้ นั้นก็อีกเรื่องครับ
เริ่มยึดทรัพย์ และติดแบล็คลีส คนที่ไม่ชำระแล้ว
พูดอย่างเป็นกลาง
- เขาไม่อยากหนีหนี้ เขาไม่มีจะให้
- เรียนจบมา กว่าจะหางานทำได้
- เงินเดือนไม่พอยาไส้ 8-9 พัน ค่าเช่าห้อง ค่ากิน ค่ารถ แทบจะไม่พอแต่ละเดือน
- ชีวิตต้องวนเวียนแบบนี้ หากินยาไส้ไปถึงแก่ยังจะได้สบายหรือเปล่า
อย่าถามเลยว่า ไม่มีจ่ายแล้วกู้ทำไม
เขากู้มาเพื่อหวังว่าจะมีชีวิตที่ดีเมื่อมีการศึกษาที่ดี แต่มันไม่ใช่อย่างนั้น
แต่ละปีคนจบมาเป็นหมื่นเป็นแสน มีเส้นมีสายก็สบายไป คนที่ดิ้นเองไม่มีตัวช่วยก็น่าเห็นใจ
สรุปคนมีเงิน ไม่เข้าใจหรือมองเห็นในจุดนี้ ปัญหาชีวิตแค่ดิ้นหากินแต่ละวันเลือดตาแทบกระเด็น
ออกกฏหมายไล่ยึดทรัพย์ แถมให้ติดแบล็คลีสชีวิตนี้ไม่ต้องทำอะไรได้ต่อไป ไม่เอาชีวิตเขาไปเลยครับจะง่ายกว่า....
น่าสงสาร -ผลาญภาษี มากกว่านี้ ให้เรียนฟรีกันไปเลยยังได้ อย่ามาอ้างว่าสงสารรุ่นน้องจะไม่มีเงินเรียนเลย...
จบมาต่อให้ได้งาน (ประจำ) เงินเดือนขั้นต่ำ 9,000 บาท
- กินข้าวมื้อละ 30 บาท เฉลี่ยให้วันละ 100 เดือนนึง 3,000 บาท
- ค่ารถค่าเดินทาง ใกล้ ไกล 50-100 บาท เฉลี่ย 1,500 - 3,000 บาท
- ค่าเช่าที่อยู่อาศัย รวมน้ำไฟอย่างต่ำๆเลย 3,000 บาท
แค่นี้ก็แทบแย่แล้ว คนที่ได้เงินเดือน 8,000 ก็มีส่วนมากด้วย
เพราะแค่ผ่อนสินค้าหรือเงินกู้เขาก็คำนวนแบบนี้ก่อนปล่อยกู้ว่าจะมีกำลังที่จะส่งเขาได้ไหม ถ้าไม่เหลือกินเขาก็ไม่ปล่อยให้กู้
มัน เป็นการปล่อยให้กู้ โดยไม่คิดแผนตอนจบ เพราะผลที่ออกมาส่วนใหญ่ จะเป็นแบบนี้ รัฐต้องแบกความเสี่ยงส่วนนี้ไว้เอง จะมาลงกับผู้กู้ไม่ได้
นอกจากรัฐสามารถการันตี รายได้เมื่อเรียนจบ คำนวนความเป็นอยู่ค่าใช้จ่ายทุกอย่าง แล้วสามารถมีกำลังส่งคืนได้ นั้นก็อีกเรื่องครับ
ความคิดเห็นที่2-2 ของสมาชิก2816515
รัฐบาลผิด กยศ. ผิด
เพราะเป็นการที่จะปล่อยกู้แบบเสี่ยงเอง ซึ่งไม่มีใครเขาทำกันหรอก ปล่อยกู้โดยไม่รู้ว่าจะมีปัญญาส่งกันหรือเปล่า
นอก จากรัฐจะการันตีว่า เรียนจบมาต้องได้งานทำเงินขั้นต่ำแน่นอนเท่าไหร่ที่จะสามารถผ่อนชำระได้ ทุกวันนี้เงินเดือน 7 พันยังมี แล้วจะส่งกันยังไง
ถ้ารัฐการันตีรายได้ว่าต้องได้เท่านี้นะ ในเมื่อได้เท่านี้แล้วไม่ส่ง เออแบบนี้สิถึงจะมาฟ้องร้องอะไรกันต่อไปได้
ถือว่ารัฐยอมเสี่ยงที่จะปล่อยกู้เอง ก็ต้องรับความเสี่ยงไว้เอง จะมาลงกับผู้กู้ไม่ได้
เพราะเป็นการที่จะปล่อยกู้แบบเสี่ยงเอง ซึ่งไม่มีใครเขาทำกันหรอก ปล่อยกู้โดยไม่รู้ว่าจะมีปัญญาส่งกันหรือเปล่า
นอก จากรัฐจะการันตีว่า เรียนจบมาต้องได้งานทำเงินขั้นต่ำแน่นอนเท่าไหร่ที่จะสามารถผ่อนชำระได้ ทุกวันนี้เงินเดือน 7 พันยังมี แล้วจะส่งกันยังไง
ถ้ารัฐการันตีรายได้ว่าต้องได้เท่านี้นะ ในเมื่อได้เท่านี้แล้วไม่ส่ง เออแบบนี้สิถึงจะมาฟ้องร้องอะไรกันต่อไปได้
ถือว่ารัฐยอมเสี่ยงที่จะปล่อยกู้เอง ก็ต้องรับความเสี่ยงไว้เอง จะมาลงกับผู้กู้ไม่ได้