โดนหนัก !! หนุ่มคลั่ง ที่ปาดคอเด็ก 5 คน เผยอาการล่าสุดเป็นแบบนี้ไปซะแล้ว






ตามที่ เว็บไซต์ บิ๊กซ่า  เคยรายงานเรื่อง นายอาซาผะ สีวัวะ อายุ 24 ปี ชาวเขาเผ่าลีซอ ซึ่งมีอาการทางประสาท ได้เกิดอาการคลุ้มคลั่ง ใช้มีดอีโต้ไล่ฟันเด็กชายอายุระหว่าง 5-8 ปีภายในบ้าน จนเสียชีวิตไป 5 รายอย่างน่าสยดสยอง นอกจากนี้ยังทำร้าย นางยี่กอ แซ่เจิ้น เจ้าของบ้าน ซึ่งกำลังท้องแก่ ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (27 ก.ย.) ขณะที่ นายอาซาผะ ได้ถูกชาวบ้านช่วยกันรุมประชาทัณฑ์จนน่วม และจับกุมตัวส่งให้ตำรวจ ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้ว ความคืบหน้าในเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 28 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.ไชยปราการ ได้นำตัว นายอาซาผะ ส่งไปรักษาที่ รพ.นครพิงค์ เพื่อรักษาอาการเลือดคั่งในสมอง และบาดแผลตามร่างกายที่เกิดจากถูกกลุ่มชาวบ้านรุมประชาทัณฑ์ โดยมีการวางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยดูแลความปลอดภัยให้กับผู้ต้องหาตลอด 24 ชม. เนื่องจากเกรงว่าบรรดาญาติของเหยื่อทั้ง 5 ศพ จะตามมาทำร้าย ขณะที่ นางยี่กอ ซึ่งได้รับบาดเจ็บจากการถูกมีดฟันเข้าที่ใบหน้าและมือ แพทย์ รพ.นครพิงค์ ได้ทำการรักษาจนอาการปลอดภัยแล้ว คาดว่าอีกราว 1-2 วันก็จะสามารถกลับบ้านได้




โดนหนัก !! หนุ่มคลั่ง ที่ปาดคอเด็ก 5 คน เผยอาการล่าสุดเป็นแบบนี้ไปซะแล้ว


   ตอนนี้บรรยากาศที่บ้านหลังเกิดเหตุ ทางญาติพี่น้องได้รับศพเด็กทั้ง 5 คนกลับมาบำเพ็ญกุศลตามประเพณี ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจกับเหตุการณ์เลวร้ายที่เพิ่งเกิดขึ้นอย่างมาก โดยประชาชนส่วนใหญ่เรียกร้องให้ลงโทษผู้ต้องหาถึงขั้นประหารชีวิต ขณะเดียวกัน นายแสวง กาศรีวิชัย ปลัดอาวุโส อ.ไชยปราการ พร้อมเจ้าหน้าที่ได้เข้าเยี่ยมครอบครัวของเหยื่อเพื่อให้กำลังใจ และรับปากจะเข้ามาดูแลช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิตตามขั้นตอน ด้าน นพ.ปริทรรศ ศิลปกิจ รักษาราชการ ผอ.รพ.สวนปรุง จ.เชียงใหม่
   เปิดเผยว่าเมื่อประมาณ 3 สัปดาห์ก่อน นายอาซาผะ ได้เขามารับการรักษาที่โรงพยาบาล เนื่องจากมีอาการควบคุมตัวเองไม่ได้ และซึมเศร้า อยากฆ่าตัวตาย ซึ่งอาการรุนแรงมาก แต่หลังจากรักษาได้ประมาณ 2 สัปดาห์ นายอาซาผะ ก็อาการดีขึ้นมาก และบ่นอยากกลับบ้าน อีกทั้งทางญาติก็อยากให้กลับไปดูแลรักษาตัวต่อที่บ้าน จึงได้จัดยาให้ไปรับประทาน และให้มารับยาต่อเนื่องทุกเดือน กระทั่งมาเกิดเหตุสลดขึ้น ตนพร้อมทีมสาธารณสุขอำเภอจึงได้เดินทางมาเยี่ยมบ้านที่เกิดเหตุ พร้อมดูแลสภาพจิตใจของญาติผู้เสียชีวิต รวมถึงญาติผู้ก่อเหตุ เพราะทุกคนที่ดูอยู่ในอาการเศร้าสลดทั้งสองฝ่าย ต่อไปเราก็จะมีการหารือกันเพื่อวางมาตราการป้องกัน เพื่อไม่ให้เกิดเหตุสลดซ้ำรอยอีก. เว็บไซต์ บิ๊กซ่า หวังว่าข่าวจะเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านนะคะ




ที่มา : cnnnews